บทที่ 2 รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว 10-12 นาทีในการอ่าน

เทรดเดอร์ชาวญี่ปุ่นได้คิดค้นหลายรูปแบบแท่งเทียนขึ้นมา ทุกรูปแบบได้ผ่านการทดสอบตามกาลเวลา ทั้งเทรดเดอร์รายย่อยและบริษัททางการเงินขนาดใหญ่ต่างก็ทำการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนเพื่อคาดการณ์โมเมนตัมถัดไป หากเทรดเดอร์เห็นรูปแบบแท่งเทียนซึ่งเป็นรูปแบบที่ง่ายต่อการจดจำ พวกเขาก็จะติดตามสัญญาณของรูปแบบนั้น ส่งผลให้มีความเป็นไปได้สูงที่สัญญาณจะถูกนำมาใช้

รูปแบบแท่งเทียนมีอยู่สองประเภทหลัก ๆ คือ กลับตัว และ ต่อเนื่อง บทเรียนนี้จะเน้นไปที่รูปแบบกลับตัว

รูปแบบแท่งเทียนกลับตัวคือกลุ่มของรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งชี้ว่าแนวโน้มจะเปลี่ยนทิศทางหรือปรับฐานลึก

"นี่หมายความว่าถ้าผมได้ยินคำว่า “รูปแบบกลับตัว” แนวโน้มจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นทันทีเลยใช่ไหม?"

ได้แบบนั้นก็ดีสิ! แต่ในความเป็นจริง การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ แบบค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป รูปแบบแท่งเทียนกลับตัวจะบ่งชี้ว่าแนวโน้มก่อนหน้านี้อาจเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องกลับตัว

สองปัจจัยที่เพิ่มความแข็งแรงของสัญญาณที่เกิดจากรูปแบบกลับตัว มีดังนี้

  1. แนวโน้มก่อนหน้านี้มีความแข็งแกร่งและมีความชัน

  2. รูปแบบกลับตัวปรากฏตัวใกล้กับแนวต้านหรือแนวรับที่แข็งแกร่ง

รูปแบบขาขึ้น

เดี๋ยวเรามาเริ่มต้นกันด้วยรูปแบบขาขึ้นที่บ่งชี้ถึงการกลับตัวของราคาเป็นขาขึ้น มันจะปรากฏขึ้นที่จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาลง

รูปแบบ Hammer

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 1

2. ความถี่ของการเกิด: สูง

3. สี: เป็นแท่งอะไรก็ได้ แต่เป็นแท่งขาขึ้นก็ดี

4. ลักษณะสำคัญ: เนื้อเทียนสั้น ไส้บนสั้น ไส้ล่างยาว

1.png

แน่นอนว่ารูปแบบกลับตัวที่เทพธอร์ชอบมากคือรูปแบบ Hammer รูปร่างของมันเหมือนค้อนจริง ๆ นะ! แท่งเทียนมีไส้ล่างยาว ๆ ซึ่งควรมีความยาวอย่างน้อยสองเท่าของเนื้อเทียน รูปแบบ Hammer จะแสดงให้เห็นว่าแม้ว่าตลาดขาลงจะสามารถดึงราคาลงไปจนเกิดจุดต่ำสุดใหม่ได้ แต่พวกเขาก็ไม่อาจรั้งราคาไว้ตรงนั้นได้แถมยังพ่ายแพ้การต่อสู้ให้กับผู้ซื้อในตอนสิ้นสุดช่วงเวลาซื้อขาย

สัญญาณของรูปแบบ Hammer จะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เมื่อ

  • รูปแบบ Hammer ก่อตัวขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลงที่ยาวนาน

  • รูปแบบ Hammer จะตามมาด้วยแท่งเทียนที่ปิดเหนือราคาเปิดของแท่ง Hammer

รูปแบบ Inverted hammer

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 2

2. ความถี่ของการเกิด: กลาง ๆ

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาลง แต่แท่งที่สองเป็นแท่งอะไรก็ได้

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนแท่งแรกอยู่ในแนวโน้มขาลง แท่งที่สองไม่มีไส้ล่างหรือมีแต่สั้นมาก ๆ และมีไส้บนยาว ๆ ส่วนเนื้อเทียนของแท่งที่สองจะมีขนาดเล็ก

2.png

นี่คือรูปแบบ Hammer กลับหัวกลับหาง ในรูปแบบจะต้องมีแท่งเทียนขาลงก่อนที่จะเกิดรูปแบบ Inverted Hammer สัญญาณของรูปแบบจะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นเมื่อแท่งเทียนแท่งที่สองเป็นแท่งขาขึ้น รูปแบบนี้ต้องได้รับการยืนยันในรูปแบบของการทำลายโซนแนวต้านที่ใกล้ที่สุดหรือทำลายเส้นแนวโน้ม

รูปแบบ Morning Star

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 3

2. ความถี่ของการเกิด: กลาง ๆ

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาลง แท่งที่สองเป็นแท่งขาขึ้น/ขาลง ส่วนแท่งที่สามเป็นแท่งขาขึ้น

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนแท่งแรกอยู่ในแนวโน้มขาลง แท่งที่สองปรากฏขึ้นหลังช่องว่างด้านล่าง (gap down) ส่วนแท่งที่สามเปิดขึ้นโดยมีช่องว่างด้านบน (gap up) และปิดอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของเนื้อเทียนของแท่งแรก

3.png

นี่เป็นบทเรียนดาราศาสตร์เล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับคุณ! “Morning Star” หรือดาวรุ่ง เป็นชื่อเล่นของดาวพุธ หากคุณเห็นมันบนท้องฟ้า นั่นแปลว่าพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นในอีกไม่ช้า ราคาเองก็เช่นกัน เมื่อดาวรุ่งปรากฏ ราคาก็จะพุ่งขึ้น

แท่งเทียนแท่งแรกของรูปแบบควรเป็นแท่งขาลงที่มีเนื้อเทียนขนาดใหญ่ แท่งที่สองควรเปิดโดยมีช่องว่างด้านล่าง (ใต้เนื้อเทียนของแท่งแรก) และมีเนื้อเทียนขนาดเล็ก ซึ่งบ่งบอกว่าผู้ขายเริ่มอ่อนแรงลง ส่วนสีของแท่งนี้จะเป็นสีอะไรก็ได้ และแท่งที่สามควรปิดช่องว่างด้านล่างก่อนหน้า มันควรจะเป็นแท่งขาขึ้นและปิดเหนือกึ่งกลางของแท่งเทียนแท่งแรก

สัญญาณของรูปแบบ Morning Star จะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เมื่อ

  • รูปแบบนี้ปรากฏขึ้นหลังแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง

  • รูปแบบได้รับการยืนยันโดยการทำลายเส้นแนวโน้มหรือโซนแนวต้านที่ใกล้ที่สุด

"อืม… ดูเหมือนว่าจำเป็นต้องมีช่องว่างระหว่างแท่งเทียนของรูปแบบ Morning Star สินะ กฎนี้ใช้ได้กับทุกสินทรัพย์และทุกกราฟเลยใช่ไหม?"

รูปแบบ Morning Star ในอุดมคติควรมีช่องว่างระหว่างแท่งเทียนที่เป็นองค์ประกอบ อย่างไรก็ตาม ในบางตลาดก็ไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามกฏเป๊ะ ๆ ราคาเปิดและปิดอาจเท่ากันหรือใกล้เคียงกันก็ได้ คุณสามารถค้นหารูปแบบดังกล่าวได้ในตลาด Forex และในรูปแบบกราฟระหว่างวัน (เช่น กราฟ 5 นาทีหรือ 15 นาที)

รูปแบบ Morning Doji Star

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 3

2. ความถี่ของการเกิด: นาน ๆ ครั้ง

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาลง แท่งที่สองเป็นแท่งขาขึ้น/ขาลง ส่วนแท่งที่สามเป็นแท่งขาขึ้น

4. ลักษณะสำคัญ: รูปแบบนี้แทบจะเหมือนกับรูปแบบ Morning Star เพียงแต่แท่งเทียนแท่งที่สองนั้นเป็นแท่ง Doji

4.png

คุณคงเดาได้จากชื่อของมัน รูปแบบ Morning Doji Star นั้นแทบจะเหมือนกับรูปแบบ Morning Star ทั่วไป เพียงแต่แท่งเทียนแท่งที่สองจะเป็นแท่ง Doji มันจะให้สัญญาณที่แข็งแรงกว่ารูปแบบ Doji Star ทั่วไป

รูปแบบ Piercing line

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 2

2. ความถี่ของการเกิด: กลาง ๆ

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาลง แท่งที่สองเป็นแท่งขาขึ้น

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนปรากฏขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง แท่งที่สองเปิดใต้/เท่ากับจุดต่ำสุดก่อนหน้า ราคาปิดของแท่งที่สองควรอยู่เหนือกึ่งกลางของเนื้อเทียนของแท่งก่อนหน้า แต่ต่ำกว่าราคาเปิดก่อนหน้า

5.png

รูปแบบ Piercing Line เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบกลับตัวขาขึ้นสุดคลาสสิก ราคาจะเปิดช่องว่างด้านล่างหลังแท่งเทียนแท่งแรกที่เป็นขาลง แต่กระทิงกลับแข็งแกร่งขึ้นแล้วดันราคากลับขึ้นมา แท่งเทียนแท่งแรกควรมีขนาดใหญ่และเป็นแท่งขาลง แท่งถัดไปควรเป็นแท่งขาขึ้นและเปิดใต้หรือเท่ากับจุดต่ำสุดก่อนหน้า ราคาปิดของแท่งเทียนนี้ควรต่ำกว่าราคาเปิดก่อนหน้า เนื้อเทียนทั้งสองควรอยู่ต่ำมากพอ รูปแบบนี้ต้องได้รับการยืนยันในรูปแบบของการทำลายระดับที่มีนัยสำคัญหรือเส้นแนวโน้ม

รูปแบบ Bullish Harami

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 2

2. ความถี่ของการเกิด: บ่อย

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาลง ส่วนแท่งที่สองเป็นแท่งขาขึ้น

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนปรากฏขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง แท่งที่สองควรอยู่ภายในเนื้อเทียนของแท่งแรก

6.png

คำว่า “Harami” แปลว่าตั้งครรภ์ในภาษาญี่ปุ่น นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ รูปแบบนี้ดูเหมือนแท่งเทียนกำลังจะคลอดลูก! แท่งเทียนแท่งแรกจะเป็นแท่งยาว ๆ และเป็นแท่งขาลง ในขณะที่แท่งที่สองนั้นจะมีขนาดเล็ก นอกจากนี้ แท่งที่สองควรอยู่ “ภายใน” เนื้อเทียนของแท่งแรก สัญญาณการกลับตัวจะแข็งแรงขึ้นเมื่อแท่งเทียนที่ก่อตัวหลังจากรูปแบบปิดเหนือราคาปิดของแท่งที่สอง ("ทารก")

รูปแบบ Bullish Harami Cross

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 2

2. ความถี่ของการเกิด: นาน ๆ ครั้ง

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาลง แท่งที่สองเป็นแท่ง Doji

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนปรากฏขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง แท่งที่สองควรเป็นแท่ง Doji ที่อยู่ภายในเนื้อเทียนของแท่งแรก

7.png

สถานการณ์นี้จะคล้ายกับตอนที่เกิดรูปแบบ Bullish Harami เพียงแต่แท่งเทียนแท่งที่สองจะเป็นแท่ง Doji รูปแบบนี้จะแข็งแรงกว่ารูปแบบปกติ

รูปแบบ Three Inside Up

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 3

2. ความถี่ของการเกิด: บ่อย

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาลง แท่งที่สองเป็นแท่งขาขึ้น และแท่งที่สามก็เป็นแท่งขาขึ้น

4. ลักษณะสำคัญ: ส่วนขยายของรูปแบบ Bullish Harami

8.png

นี่คือส่วนขยายของรูปแบบ Bullish Harami ที่ค้นพบโดย Gregory Morris หลังจากรูปแบบ Bullish Harami แท่งเทียนแท่งที่สามจะทำหน้าที่เป็นแท่งยืนยันการกลับตัว โดยมันจะปิดเหนือราคาของแท่งที่สอง ราคาเปิดของแท่งที่สองอาจเท่ากับราคาปิดของแท่งแรก ในบางกรณีก็เป็นไปได้ที่ราคาปิดของแท่งที่สองจะใกล้เคียงกับราคาเปิดของแท่งแรก แต่ทั้งสองกรณีไม่ควรเกิดขึ้นพร้อมกัน และในรูปแบบนี้ เราจะไม่ให้ความสำคัญกับไส้เทียน

รูปแบบ Tweezers Bottom

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 2 แต่คุณสามารถเพิ่มอีกได้

2. ความถี่ของการเกิด: นาน ๆ ครั้ง

3. สี: อะไรก็ได้

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนสามารถมีรูปแบบใดก็ได้ ยกเว้นรูปแบบ Four-Price Doji ราคาต่ำสุดควรจะเท่ากับราคาต่ำสุดก่อนหน้า

9.png

แม้ว่ารูปแบบนี้จะไม่ค่อยปรากฏบนกราฟ แต่มันก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อถือได้ เมื่อคุณซื้อขายรูปแบบนี้ กุญแจสู่ความสำเร็จคือการหาแท่งเทียนที่มีจุดต่ำสุดเท่ากันที่ปรากฏที่จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาลง

รูปแบบ Bullish Engulfing (กลืนกินขาขึ้น)

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 2

2. ความถี่ของการเกิด: บ่อย

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาลง แท่งที่สองเป็นแท่งขาขึ้น

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนปรากฏขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง แท่งที่สองควรเปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งแรกและปิดเหนือจุดสูงสุดของแท่งแรก

10.png

รูปแบบขาขึ้นประเภทนี้เป็นรูปแบบที่พบได้ค่อนข้างบ่อย ซึ่งส่งสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้น รูปแบบนี้จะสร้างสัญญาณการกลับตัวที่แข็งแรงเนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาในขาขึ้นจะครอบคลุมการเคลื่อนไหวในขาลงได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งขนาดของแท่งเทียนทั้งสองแตกต่างกันมากเท่าใด สัญญาณการซื้อก็จะยิ่งแข็งแรงขึ้นเท่านั้น

รูปแบบ Three White Soldiers

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 3

2. ความถี่ของการเกิด: นาน ๆ ครั้ง

3. สี: แท่งขาขึ้น

4. ลักษณะสำคัญ: ชุดของแท่งเทียนขาขึ้น 3 แท่ง แท่งแรกจะปรากฏเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มขาลง แท่งเทียนแต่ละแท่งควรเปิดภายในเนื้อของแท่งก่อนหน้า เปิดเหนือกึ่งกลางของแท่งได้ก็ยิ่งดี แท่งเทียนแต่ละแท่งจะปิดที่ระดับสูงสุดใหม่ ใกล้จุดสูงสุดของมัน

11.png

นี่เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นยากและมีสัญญาณการกลับตัวที่แข็งแรง แท่งเทียนทั้งสามแท่งควรมีเนื้อเทียนขนาดใหญ่ หลังจากแท่งเทียนแท่งแรก แท่งที่สองจะเปิดภายในเนื้อเทียนของแท่งแรกและปิดเหนือแท่งแรก แท่งที่สามควรเปิดภายในเนื้อเทียนของแท่งที่สองและปิดเหนือแท่งที่สอง เราได้แนะนำให้คุณรู้จักรูปแบบกลับตัวขาขึ้นหลัก ๆ แล้วนะ! จริง ๆ แล้วยังมีมากกว่านี้อีก แต่มันก็ไม่ค่อยปรากฏให้เห็นบนกราฟ เดี๋ยวตอนนี้เราไปดูรูปแบบหลัก ๆ ที่ส่งสัญญาณการกลับตัวเป็นขาลงกันดีกว่า

รูปแบบขาลง

ในส่วนนี้ของบทเรียนจะเป็นรูปแบบขาลง เราจะไปดูรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงกันอย่างใกล้ชิด ใช่แล้ว! นอกจากจะมีรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นแล้ว มันก็มีรูปแบบที่ส่งสัญญาณการกลับตัวเป็นขาลงด้วยเช่นกัน

รูปแบบ Shooting Star

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 1

2. ความถี่ของการเกิด: สูง

3. สี: เป็นแท่งอะไรก็ได้ แต่เป็นแท่งขาลงก็ดี

4. ลักษณะสำคัญ: เนื้อเทียนสั้นมาก ๆ แถมมีไส้บนยาวกว่าเนื้อเทียนอย่างน้อยสองเท่า และมีไส้ล่างสั้น ๆ

12.png

นี่เป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในช่วงขาขึ้น เมื่อเห็นแล้วอย่าลืมอธิษฐานให้มีสัญญาณขายเกิดขึ้นมาล่ะ! ไส้บนยาว ๆ แสดงให้เราเห็นว่าราคาไม่เป็นที่ยอมรับของผู้เข้าร่วมตลาดอีกต่อไป ส่วนเนื้อเทียนและไส้ล่างของรูปแบบนี้ควรมีขนาดเล็ก

สัญญาณการกลับตัวจะถือว่าแข็งแรงกว่า เมื่อ

  1. ไส้บนยาวมาก ๆ

  2. มีช่องว่างระหว่างแท่งเทียนก่อนหน้าและรูปแบบ Shooting Star

  3. แท่งเทียนเป็นแท่งขาลง

รูปแบบ Evening Star

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 3

2. ความถี่ของการเกิด: กลาง ๆ

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาขึ้น แต่แท่งที่สองเป็นอะไรก็ได้ และแท่งที่สามเป็นแท่งขาลง

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนแท่งแรกจะเป็นแท่งยาว ๆ แท่งที่สองจะมีเนื้อเทียนขนาดเล็ก และแท่งที่สามมักจะยาวกว่าแท่งแรก มีช่องว่างด้านบน (gap up) ระหว่างแท่งแรกและแท่งที่สอง ส่วนแท่งที่สามจะปิดช่องว่างด้านบน (bullish gap)

13.png

"รูปแบบนี้ดูเหมือนจะเป็นรูปแบบกลับตัวเป็นขาลง เห็นชัดสุด ๆ!"

แน่นอน ยิ่งคุณดูกราฟบ่อยเท่าไร คุณก็จะยิ่งมองเห็นรูปแบบกลับตัวและดำเนินการตามรูปแบบที่เห็นได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

รูปแบบ Evening Doji Star

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 3

2. ความถี่ของการเกิด: นาน ๆ ครั้ง

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาขึ้น แท่งที่สองเป็นแท่ง Doji ส่วนแท่งที่สามเป็นแท่งขาลง

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนแท่งแรกและแท่งที่สามจะเป็นแท่งยาว ๆ ส่วนแท่งที่สองจะเป็นแท่ง Doji

14.png

นี่เป็นรูปแบบเดียวกับรูปแบบ Evening Star แต่แท่งเทียนแท่งที่สองควรเป็นแท่ง Doji แม้ว่าจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่สัญญาณที่ได้รับจากรูปแบบนี้ก็มีความแข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากช่องว่างก่อตัวขึ้นระหว่างแท่งเทียน

รูปแบบ Hanging Man

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 1

2. ความถี่ของการเกิด: สูง

3. สี: ไม่สำคัญ

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนมีเนื้อเทียนขนาดเล็กและมีไส้ล่างยาว ๆ

15.png

นี่มัน Hammer ใช่รึเปล่า? ไม่ใช่ Hanging Man ต่างหากล่ะ! รูปแบบนี้ปรากฏขึ้นที่จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น มันจะให้สัญญาณการสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น ระดับสูงสุด หรือแนวต้าน แท่งเทียนจะมีไส้ล่างยาว ๆ ซึ่งควรมีความยาวอย่างน้อยสองเท่าของเนื้อเทียน แท่งเทียนจะเป็นสีอะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นแท่งขาลง สัญญาณก็จะแข็งแรงกว่า

รูปแบบจะได้รับการยืนยันเมื่อแท่งขาลงปิดต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนที่อยู่ทางด้านซ้ายของรูปแบบ

รูปแบบ Dark Cloud Cover

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 2

2. ความถี่ของการเกิด: กลาง ๆ

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาขึ้น ส่วนแท่งที่สองเป็นแท่งขาลง

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนแท่งแรกจะเป็นแท่งยาว ๆ ส่วนแท่งที่สองควรเปิดเหนือแท่งแรกและปิดต่ำกว่า 50% ของเนื้อเทียนของแท่งแรก

16.png

นี่คือพี่น้องฝั่งขาลงของรูปแบบ Piercing Line แท่งที่สองที่เป็นแท่งขาลงจะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเหนือแท่งแรก แต่ไม่สามารถรักษาโมเมนตัมขาขึ้นได้ ส่งผลให้ราคากลับตัวเป็นขาลง การยืนยันในรูปแบบของการทำลายระดับแนวรับจะทำให้สัญญาณแข็งแรงขึ้น

รูปแบบ Bearish Harami

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 2

2. ความถี่ของการเกิด: บ่อย

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาขึ้น ส่วนแท่งที่สองเป็นแท่งขาลง

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนปรากฏขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้น แท่งที่สองควรอยู่ภายในเนื้อเทียนของแท่งแรก

แท่งเทียน “ตั้งครรภ์” จะปรากฏขึ้นที่จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น นั่นคือเนื้อเทียนของแท่งที่สองจะอยู่ในเนื้อเทียนของแท่งแรกโดยสมบูรณ์และมีสีตรงกันข้าม สัญญาณของรูปแบบนี้จะได้รับการยืนยันเมื่อแท่งเทียนแท่งถัดไปมีขนาดใหญ่และเป็นแท่งขาลง

17.png

รูปแบบ Bearish Harami Cross

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 2

2. ความถี่ของการเกิด: นาน ๆ ครั้ง

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาขึ้น ส่วนแท่งที่สองเป็นแท่ง Doji

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนปรากฏขึ้นในช่วงขาขึ้น แท่งที่สองควรเป็นแท่ง Doji ที่อยู่ภายในเนื้อเทียนของแท่งแรก

นี่เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นยากมากที่มีแท่งเทียน Doji อยู่ภายในเนื้อเทียนของแท่งเทียนแท่งแรก สัญญาณจะมีความแข็งแรงหากแท่งเทียนแท่งถัดไปหลังจากรูปแบบเกิดช่องว่างด้านล่าง

18.png

รูปแบบ Three Inside Down

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 3

2. ความถี่ของการเกิด: บ่อย

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาขึ้น แท่งที่สองเป็นแท่งขาลง และแท่งที่สามก็เป็นแท่งขาลง

4. ลักษณะสำคัญ: ส่วนขยายของรูปแบบ Bearish Harami

19.png

จากข้อมูลของ Gregory Morris แท่งเทียนแท่งที่สามซึ่งปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งที่สองนั้นสำคัญมากจนควรเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบ Bearish Harami ส่วนไส้เทียนในรูปแบบแท่งเทียนนี้จะไม่มีความสำคัญ รูปแบบจะได้รับการยืนยันเมื่อแนวรับหรือเส้นแนวโน้มถูกทำลาย

รูปแบบ Tweezers Top

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 2 แต่คุณสามารถเพิ่มอีกได้

2. ความถี่ของการเกิด: นาน ๆ ครั้ง

3. สี: อะไรก็ได้

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนสามารถมีรูปแบบใดก็ได้ ยกเว้นรูปแบบ Four-Price Doji ราคาสูงสุดของแท่งเทียนแท่งที่สองควรเท่ากับราคาสูงสุดก่อนหน้า

20.png

รูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่ส่งสัญญาณการกลับตัวเป็นขาลง แท่งเทียนอาจมีรูปแบบใดก็ได้ ยกเว้น Four-Price Doji

รูปแบบ Bearish Engulfing (กลืนกินขาลง)

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 2

2. ความถี่ของการเกิด: บ่อย

3. สี: แท่งแรกเป็นแท่งขาขึ้น ส่วนแท่งที่สองเป็นแท่งขาลง

4. ลักษณะสำคัญ: แท่งเทียนปรากฏขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้น แท่งที่สองควรเปิดเหนือจุดสูงสุดของแท่งแรกและปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของมัน

21.png

คุณสามารถพบรูปแบบนี้บนกราฟได้บ่อยมาก หลังจากแท่งเทียนขาขึ้น แท่งที่สองจะเป็นแท่งขาลงและเปิดเหนือจุดสูงสุดของแท่งแรก สัญญาณจะได้รับการยืนยันหากมันปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งแรก รูปแบบนี้จะสร้างสัญญาณการกลับตัวที่แข็งแรงเนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาในขาลงจะกลืนการเคลื่อนไหวในขาขึ้นโดยสมบูรณ์ ยิ่งขนาดของแท่งเทียนทั้งสองแตกต่างกันมากเท่าไร สัญญาณการขายก็จะยิ่งแข็งแรงขึ้นเท่านั้น

รูปแบบ Three Black Crows

คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ:

1. จำนวนแท่งเทียน: 3

2. ความถี่ของการเกิด: นาน ๆ ครั้ง

3. สี: แท่งขาลง

4. ลักษณะสำคัญ: ชุดของแท่งเทียนขาลงสามแท่ง แท่งเทียนแต่ละแท่งจะเปิดภายในเนื้อเทียนของแท่งก่อนหน้า ควรต่ำกว่ากึ่งหนึ่งของแท่ง แท่งเทียนแต่ละแท่งจะปิดที่จุดต่ำสุดใหม่ ใกล้จุดต่ำสุดของมันเอง

22.png

รูปแบบ Three Black Crows จะบ่งบอกถึงจุดเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ รูปแบบนี้มีความน่าเชื่อถือมาก แต่ก็ควรได้รับการยืนยันเสียก่อน มันอาจดูเหมือนแท่งเทียนขาลงที่มีการปิดต่ำลงหรือช่องว่างด้านล่าง

เราได้แนะนำให้คุณรู้จักกับรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวประเภทหลัก ๆ ไปแล้ว เราขอแนะนำให้คุณบันทึกบทเรียนนี้หรือจดบันทึกเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้นและเพื่อการเรียนรู้ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น เดี๋ยวเรามาสรุปสิ่งที่เราได้เรียนรู้กันไปแล้วดีกว่า!

สรุปบทเรียน

  • รูปแบบแท่งเทียนกลับตัวจะแสดงถึงกลุ่มของรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งชี้ว่าแนวโน้มจะเปลี่ยนทิศทางหรือปรับฐานลึก

  • โดยประกอบด้วยรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นและขาลง รูปแบบแท่งเทียนขาขึ้นจะบ่งชี้ถึงการกลับตัวเป็นขาขึ้น ในขณะที่รูปแบบแท่งเทียนขาลงจะส่งสัญญาณการกลับตัวเป็นขาลง

  • รูปแบบแท่งเทียนกลับตัวจะแสดงให้เห็นว่าการกลับตัวนั้นอาจเกิดขึ้น แต่ไม่จำเป็นเสมอไป โดยการกลับตัวจะเกิดขึ้น หากแนวโน้มก่อนหน้ามีความแข็งแรงและมีความชัน

  • รูปแบบแท่งเทียนมีอยู่เป็นจำนวนมาก รูปแบบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ Stars, Harami, Engulfing, Hammer, และ Hanging Man รูปแบบส่วนใหญ่ต้องได้รับการยืนยันในรูปแบบของการทำลายระดับที่มีนัยสำคัญ

  • สัญญาณของรูปแบบจะแข็งแรงกว่าหากรูปแบบนี้มีแท่งเทียนรูปกากบาท (มีแท่ง Doji)

กำลังจะมา

ในบทต่อไป เราจะมาดูรูปแบบที่แสดงความแข็งแกร่งของแนวโน้มที่เรียกว่ารูปแบบต่อเนื่องกัน

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ: