• 14 Oct 2024
  • พื้นฐาน

ตลาดฟอเร็กซ์คืออะไรและมันทำงานอย่างไร?

1200х675-6.png

อยากรู้จักตลาดฟอเร็กซ์มากขึ้นไหม? สงสัยไหมว่ามันทำงานอย่างไร และจะทำเงินจากการเทรดสกุลเงินได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการเทรด ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการเพิ่มพูนความมั่งคั่งของคุณ เริ่มออกเดินทางสู่การเทรดของคุณเลยดีกว่า!

ตลาดฟอเร็กซ์คืออะไร?

ฟอเร็กซ์ (หรือเรียกสั้น ๆ ว่า FX) คือคำย่อของตลาดฟอเร็กซ์ สกุลเงินของโลกมีความผันผวน และอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินต่าง ๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์จะใช้การเคลื่อนไหวของราคาเหล่านี้เพื่อทำกำไรโดยการขายสกุลเงินหนึ่งและซื้ออีกสกุลเงินหนึ่งตามจังหวะของกลยุทธ์

สถิติล่าสุดแสดงให้เห็นว่าตลาดฟอเร็กซ์กำลังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ในปี 2023 ตลาดนี้ได้มีมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ที่ $805 พันล้าน ผู้เชี่ยวชาญของ IMARC Group คาดการณ์ว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นเป็น $1.5 พันล้าน ภายในปี 2031

ตลาดฟอเร็กซ์ยังคงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องมาจากแนวโน้มดังต่อไปนี้:

  • ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การเทรดแบบอัลกอริธึม

  • การพัฒนากฎระเบียบที่ทำให้ตลาดมีความโปร่งใสมากขึ้น

  • การเพิ่มขึ้นของการมีส่วนร่วมของเทรดเดอร์รายย่อย

ไปที่ FBS Academy เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน

ตลาดฟอเร็กซ์ทำงานอย่างไร?

เทรดเดอร์จะซื้อสกุลเงินที่ราคาหนึ่ง แล้วขายในราคาที่สูงกว่าเพื่อให้ได้กำไร ง่ายขนาดนั้นเชียว?

ตลาดฟอเร็กซ์นั้นแตกต่างจากตลาดประเภทอื่น ๆ เช่น ตลาดหุ้น ที่ตั้งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์จริงอย่างเช่นตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ตลาดฟอเร็กซ์เป็นระบบกระจายอำนาจ และการซื้อขายทั้งหมดจะเกิดขึ้นผ่านเครือข่ายโบรกเกอร์-ดีลเลอร์ ผู้ซื้อและผู้ขายฟอเร็กซ์มักจะซื้อขายกันผ่านเคาน์เตอร์ (OTC) ซึ่งโดยปกติจะทำการซื้อขายโดยตรงผ่านธนาคาร โบรกเกอร์ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์

1200х675.png
อัตราเงินเฟ้อในประเทศต่าง ๆ (ที่มา: tradingeconomics.com)

มีหลายปัจจัยหลายที่ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน และสิ่งที่สำคัญที่สุด มีดังต่อไปนี้

  1. สมมติว่าธนาคารกลางของประเทศหนึ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยทั่วไปสกุลเงินของธนาคารกลางดังกล่าวมักจะแข็งค่าขึ้น เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้นจะดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น (และในทำนองกลับกัน)

  2. สถานการณ์เศรษฐกิจ เช่น การว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ ล้วนส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงินเสมอ โดยทั่วไปแล้ว การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจะทำให้สกุลเงินของประเทศมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และในทำนองกลับกัน

  3. สถานการณ์ทางการเมืองก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ในช่วงเวลาที่มีความไม่มั่นคงทางการเมืองหรือความขัดแย้งทางทหาร มูลค่าของสกุลเงินอาจลดลงได้

  4. แต่ไม่ใช่ทุกปัจจัยที่จะอยู่ในระดับระดับโลก นอกเหนือจากผลกระทบที่เหตุการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกอาจมีต่ออัตราแลกเปลี่ยนแล้ว อารมณ์ของผู้คนก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน ปัจจัยที่เรียกว่า ความเชื่อมั่นตลาด จะวัดว่าเทรดเดอร์รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับอนาคตของสกุลเงิน หากพวกเขามองในแง่ดี ตัวบ่งชี้นอาจผลักดันให้มูลค่าของสกุลเงินสูงขึ้นได้

ใครบ้างที่ซื้อขายสกุลเงิน?

ทุกวันนี้ ใคร ๆ ก็สามารถซื้อขายสกุลเงินได้ คุณเองก็อาจเคยทำไปแล้วด้วยซ้ำ เช่น ในตอนที่คุณเดินทางไปต่างประเทศ แล้วคุณต้องการซื้อหรือขายสิ่งต่าง ๆ ด้วยสกุลเงินท้องถิ่น พูดง่าย ๆ ว่าการแลกเปลี่ยนเงินตราก็คือฟอเร็กซ์ เมื่อบริษัทซื้อหรือขายให้กับคู่ค้าต่างประเทศ พวกเขาจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่าง ๆ ทุกวันเพื่อให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จ

แล้วใครคือผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดฟอเร็กซ์?

  • ธนาคารขนาดใหญ่ เป็นส่วนสำคัญของตลาดฟอเร็กซ์ พวกเขาจะซื้อขายสกุลเงินให้กับตนเอง และทำแทนลูกค้าซึ่งรวมไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่และรัฐบาล

  • ธนาคารกลาง ก็มีส่วนร่วมในการซื้อขายสกุลเงินด้วย สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการอัตราแลกเปลี่ยน และรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศของพวกเขา

  • รัฐบาล ก็อาจมีส่วนร่วมในตลาดฟอเร็กซ์เพื่อเป็นวิธีในการจัดการสำรองเงินตราต่างประเทศหรือเพื่อส่งผลกระทบต่อมูลค่าสกุลเงินของประเทศของตน

  • บริษัทใหญ่ ๆ ที่ทำธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศมักจะต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงินทุกวันเพื่อให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จ

  • บริษัทการเงินขนาดใหญ่ เช่น กองทุนป้องกันความเสี่ยงหรือกองทุนรวมที่การซื้อขายสกุลเงินเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุน พวกเขาทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยน

บางคนก็ซื้อขายเพื่อหาเลี้ยงชีพ พวกเขาสามารถทำงานให้กับลูกค้ารายย่อย ให้กับองค์กรทางการเงินอย่างกองทุนป้องกันความเสี่ยง หรือทำงานให้ตัวเอง นักลงทุนรายย่อยมักจะใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการซื้อขายสกุลเงิน

เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์คือผู้ที่คุ้นเคยกับการทำงานกับข้อมูลจำนวนมหาศาล นักลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จควรสามารถทำงานกับหลายตัวบ่งชี้ที่แตกต่างกันและทำการการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนได้

ในอดีต มีเพียงบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้นที่สามารถซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์ได้ แต่ในปัจจุบัน ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ รวมถึงคุณด้วย

ยังใหม่กับตลาดฟอเร็กซ์ใช่ไหม? เริ่มต้นกับ FBS ดูสิ

เทรดกับ FBS

ทำความเข้าใจคู่สกุลเงิน

1200х675-2.png
กราฟ EURUSD (ที่มา: www.forexfactory.com)

หากต้องการทำเงินจากการเทรดฟอเร็กซ์ คุณต้องมีคู่สกุลเงิน

สกุลเงินต่าง ๆ มักจะมีชื่อเฉพาะที่เป็นสามตัวอักษร เช่น JPY ซึ่งก็คือเยนญี่ปุ่น สองตัวอักษรแรกจะแทนชื่อประเทศ (ญี่ปุ่น) และตัวอักษรสุดท้ายจะแทนชื่อสกุลเงิน (เยน) ชื่อสามตัวอักษรเหล่านี้จะถูกเรียกว่ารหัสสกุลเงิน ISO 4217 ชื่อสกุลเงินดังกล่าวไม่เพียงแต่ถูกใช้ในการซื้อขายเท่านั้น แต่ยังถูกนำไปใช้กับตั๋วเครื่องบินหรือรถไฟอีกด้วย ตัวอย่างเช่น

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์จะถูกเขียนแบบนี้: GBPUSD (หรือ GBP/USD) สกุลเงินแรกในคู่สกุลเงินคือสกุลเงินฐาน หรือสกุลเงินที่ถูกขาย ส่วนสกุลเงินที่สองคือสกุลเงินอ้างอิง หรือสกุลเงินที่ใช้ในการชำระค่าสกุลเงินฐาน เป้าหมายของการเทรดฟอเร็กซ์คือการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน — ราคาในสกุลเงินอ้างอิงของหน่วยสกุลเงินฐาน

Types of currency pairs

ประเภทของคู่สกุลเงินมีอะไรบ้าง? มีดังต่อไปนี้

  • หลัก

  • รอง

  • เกิดใหม่

  • สามเหลี่ยม

  • คู่สินค้าโภคภัณฑ์

คู่สกุลเงินหลักและรอง

คู่สกุลเงินหลักได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด คู่สกุลเงินประเภทนี้จะถูกซื้อขายอยู่บ่อยครั้งและรวมถึงสกุลเงินต่าง ๆ ที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในโลก โปรดทราบว่าคู่เงินหลักจะมี USD อยู่ในคู่ด้วย คู่สกุลเงินเหล่านี้จะมีสภาพคล่องสูง สเปรดแคบ และความผันผวนต่ำกว่า ซึ่งแตกต่างจากคู่สกุลเงินรอง คู่สกุลเงินหลักทั่วไปมีดังนี้:

  • EURUSD: ยูโรเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

  • USDJPY: ดอลลาร์สหรัฐเทียบกับเยนญี่ปุ่น

  • GBPUSD: ปอนด์อังกฤษเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

  • USDCHF: ดอลลาร์สหรัฐเทียบกับฟรังก์สวิส

  • AUDUSD: ดอลลาร์ออสเตรเลียเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

  • USDCAD: ดอลลาร์สหรัฐเทียบกับดอลลาร์แคนาดา

  • NZDUSD: ดอลลาร์นิวซีแลนด์เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนคู่สกุลเงินรองจะไม่รวม USD เอาไว้ในคู่ คู่สกุลเงินประเภทนี้ยังถูกเรียกว่า "คู่สกุลเงินข้าม" มันมีสภาพคล่องน้อยกว่า ดังนั้นจึงมีสเปรดกว้างกว่าและความผันผวนสูงกว่า คู่รองทั่วไปบางส่วน ได้แก่

  • EURGBP: ยูโรเทียบกับปอนด์อังกฤษ

  • EURJPY: ยูโรเทียบกับเยนญี่ปุ่น

  • GBPJPY: ปอนด์อังกฤษเทียบกับเยนญี่ปุ่น

  • AUDNZD: ดอลลาร์ออสเตรเลียเทียบกับดอลลาร์นิวซีแลนด์

  • EURAUD: ยูโรเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลีย

คู่เงินยอดนิยมบางคู่ก็มีชื่อเล่นที่เรียกกันในตลาด FX ตัวอย่างเช่น EURUSD ถูกเรียกว่าไฟเบอร์, AUDUSD ถูกเรียกว่าออสซี่, USDJPY ถูกเรียกว่าโกเฟอร์ และ GBPUSD ถูกเรียกว่าเคเบิล การเรียนรู้ศัพท์แสลงในตลาดฟอเร็กซ์ถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ แต่ก็ควรระมัดระวังก่อนที่จะเริ่มใช้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดและความสับสน

ไม่แน่ใจว่าจะซื้อขายคู่ใดก่อนดีงั้นเหรอ? ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับคู่สกุลเงินที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่มีในบทความ FBS นี้

คู่สกุลเงินเกิดใหม่และประเภทอื่น ๆ

คู่สกุลเงินเกิดใหม่ คือคู่ที่สกุลเงินหลักจับคู่กับสกุลเงินของเศรษฐกิจเกิดใหม่หรือเศรษฐกิจขนาดเล็ก โดยปกติแล้วคู่สกุลเงินเหล่านี้จะมีสภาพคล่องน้อยกว่าและมีความผันผวนมากกว่า และสเปรดจะกว้างกว่าเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินหลักและคู่สกุลเงินรอง ความไม่มั่นคงทางการเมืองและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจล้วนส่งผลกระทบต่อคู่สกุลเงินเกิดใหม่ นอกจากนี้ คู่สกุลเงินเกิดใหม่มักจะมีปริมาณการซื้อขายต่ำกว่าด้วย

คู่สามเหลี่ยม เกี่ยวข้องกับสามสกุลเงินที่แตกต่างกัน คู่สินค้าโภคภัณฑ์ ประกอบด้วยสกุลเงินจากประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ มูลค่าของมันมักจะเปลี่ยนแปลงไปตามราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น AUDUSD ดอลลาร์ออสเตรเลียไม่ได้เชื่อมโยงแค่กับดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับทองคำอีกด้วย

การซื้อขายคู่สกุลเงินสามเหลี่ยมหรือสินค้าโภคภัณฑ์มีความซับซ้อนมากกว่า แถมยังต้องมีประสบการณ์ที่มากพอ

วิธีการเริ่มเทรดฟอเร็กซ์

อภิธานศัพท์สำหรับมือใหม่

ก่อนที่จะเข้าสู่โลกแห่งการซื้อขายสกุลเงิน คุณควรทำความคุ้นเคยกับคำศัพท์ทั่วไปบางคำที่คุณต้องรู้เสียก่อน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มและตลาดได้ดีขึ้น

  • อัตราแลกเปลี่ยน คือราคาของหน่วยสกุลเงินหนึ่งในอีกสกุลเงินหนึ่ง มันอาจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถูกกำหนดโดยตลาด หรือคงที่ — ถูกกำหนดโดยธนาคารกลางและไม่เปลี่ยนแปลง

  • Pip ย่อมาจาก Percentage in points (เปอร์เซ็นต์ในจุด) มันคือหนึ่งส่วนหนึ่งร้อยของ 1% และปรากฏเป็นตำแหน่งทศนิยมที่สี่ (0.0001) การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนจะถูกวัดเป็น pips ตัวอย่างเช่น หาก USD/CAD เคลื่อนตัวจาก 1.1050 ไปยัง 1.1051 นั่นคือการเปลี่ยนแปลง 1 pip

  • มาร์จิ้น คือจำนวนเงินที่คุณต้องใส่ในบัญชีเพื่อเปิดคำสั่งซื้อขายโดยใช้เลเวอเรจ

  • เลเวอเรจ — หากคุณไม่มีเงินฝากมากนัก เลเวอเรจสามารถช่วยคุณได้ เลเวอเรจคือเงินที่ยืมมาจากโบรกเกอร์ นั่นหมายความว่า คุณสามารถซื้อขายด้วยเงินมากกว่าที่คุณมีจริง ๆ ได้ถึง 50 เท่า มันเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าอย่างยิ่งแต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงมากเช่นกัน

  • ราคา Bid คือราคาซื้อ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดที่ผู้ซื้อสามารถจ่ายได้

  • ราคา Ask คือราคาต่ำสุดที่ผู้ขายรับได้ — ราคาขาย

  • สเปรด คือส่วนต่างระหว่างสองราคาก่อนหน้า: ราคา Bid และราคา Ask ตัวอย่างเช่น ถ้าราคา Bid เท่ากับ $40 และราคา Ask เท่ากับ $43 เช่นนั้นสเปรดจะเท่ากับ $3

  • แนวรับ คือระดับราคาที่ผู้ซื้อขายมีแนวโน้มที่จะเข้าซื้อ โดยปกติแล้วราคาจะไมปรับตัวลงต่อหลังจากที่แตะถึงระดับนี้ในแนวโน้มขาลง

  • แนวต้าน คือสิ่งตรงข้ามกับแนวรับ ราคาอาจปรับตัวลงที่ระดับนี้

  • Slippage (ช่องว่าง) — บางครั้งจะมีช่องว่างระหว่างช่วงเวลาที่นักลงทุนวางคำสั่งซื้อขายไปจนถึงช่วงเวลาที่คำสั่งซื้อขายเกิดขึ้นจริง ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในช่องว่างนี้ — ซึ่งนี่คือ slippage

  • คำสั่ง stop-loss จะปิดคำสั่งซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อหลักทรัพย์ไปถึงราคาที่กำหนด นี่เป็นเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่มีประโยชนที่สามารถช่วยคุณจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้

  • Trailing stop คือรูปแบบหนึ่งของคำสั่ง stop-loss: เมื่อราคาปรับตัวขึ้น คำสั่ง stop ก็จะปรับตัวขึ้นตามไปด้วย แต่หากราคาปรับตัวลงถึงจุดหนึ่ง มันก็จะปิดคำสั่งซื้อขายเพื่อปกป้องผลกำไรของคุณ

  • คำสั่ง take-profit จะทำงานในลักษณะตรงกันข้ามกับคำสั่ง stop-loss หลังจากที่กำหนดราคา take-profit แล้ว เมื่อสกุลเงินไปถึงราคาดังกล่าวในแนวโน้มขาขึ้น คำสั่งซื้อขายก็จะถูกปิดโดยอัตโนมัติ

  • Bollinger bands แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของราคา หากราคาอยู่ใกลเส้นแถบ นั่นหมายความว่าราคาถูกซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป สิ่งนี้มีประโยชน์มากในตอนที่เทรดเดอร์พยายามคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคา

  • Moving averages เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจแนวโน้มของราคา

  • Relative Strength Index (RSI) สามารถระบุว่าสกุลเงินนั้นถูกซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไปได้เช่นกัน

ก้าวแรกสู่การเทรดฟอเร็กซ์

  1. เรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่คุณทำได้ ลองเข้าไปดู FBS Academy และ อภิธานศัพท์ FBS: เรียนรู้หลักการต่าง ๆ ในการซื้อขายสกุลเงินและคำศัพท์ FX หลัก ๆ มันจะทำให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้นและช่วยปกป้องสินทรัพย์ของคุณ

  2. ทำการวิจัยตลาด ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน ศึกษากราฟ และอ่านรายงานการวิเคราะห์

  3. พัฒนากลยุทธ์การซื้อขายให้ดีที่สุด กำหนดจุดเข้าและจุดออก เงินทุนที่ใช้เสี่ยง คำสั่งตัด stop-loss และ take-profit สูงสุดที่ต้องการ มาร์จิ้นและเลเวอเรจ

  4. เริ่มใช้บัญชีทดลองที่ FBS: เพิ่มพูนประสบการณ์ในวิธีที่ปลอดภัยได้ด้วยเงินเสมือนจริง

เปิดบัญชีทดลองที่ FBS และเริ่มทำเงินตอนนี้

ลองใช้บัญชีทดลอง

ประเภทของตลาด

ตลาดฟอเร็กซ์ประกอบด้วยสามสิ่ง:

แต่ละตลาดจะมีคุณสมบัติเฉพาะของตัวเอง และอนุญาตให้เทรดเดอร์สามารถซื้อขายสกุลเงิน เก็งกำไร และป้องกันความเสี่ยงในวิธีต่าง ๆ

ตลาดสปอต

ตลาดสปอต หรือ FX สปอต คือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินในราคาสปอต (เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าราคาปัจจุบัน) โดยจะมีการส่งมอบทันที แต่สินทรัพย์บางรายการก็จะระบุราคาฟิวเจอร์สหรือราคาฟอร์เวิร์ดด้วย ตลาดนี้เป็นตลาดฟอเร็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดและพบเห็นได้มากที่สุดในโลก

คุณสามารถทำการซื้อขาย:

  • สกุลเงินและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน

  • สินค้าโภคภัณฑ์ (เช่น โลหะ พลังงาน ฯลฯ)

  • หลักทรัพย์

  • ตั๋วเงินคลังและพันธบัตร

ตลาดสปอตดึงดูดใจเทรดเดอร์ได้เนื่องจากตลาดนี้มีการซื้อขายที่คึกคักและมีสภาพคล่องสูง ส่งมอบได้ทันที และให้ราคาแบบเรียลไทม์แก่เทรดเดอร์ บ่อยครั้งที่สเปรดจะเล็กกว่า ดังนั้นมันจึงมีต้นทุนน้อยกว่าในการเปิดสถานะ มีคู่สกุลเงินมากกว่า 80 คู่ให้เทรดเดอร์ได้เลือกเทรด

ตลาดสปอตก็มีข้อเสียเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ตลาดนี้ไม่เหมาะกับการป้องกันความเสี่ยงมากนัก และมีค่าธรรมเนียมโยกสถานะข้ามคืนเพื่อรักษาสถานะของคุณให้เปิดอยู่จนถึงวันถัดไป นอกจากนี้ ตลาดนี้ก็มีความเสี่ยงไม่ต่างจากตลาดอื่น ๆ คุณอาจสูญเสียมากกว่าที่คุณฝากเนื่องจากมาร์จิ้นได้

ตลาดฟอร์เวิร์ดและฟิวเจอร์ส

เมื่อผู้ซื้อและผู้ขายลงนามในสัญญาฟอร์เวิร์ด พวกเขาจะตกลงที่จะแลกเปลี่ยนสกุลเงินในอนาคตด้วยราคาที่ตกลงกันในปัจจุบัน สัญญาเหล่านี้มักจะมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่าและสามารถปรับแต่งได้ สัญญาฟอร์เวิร์ดเป็นที่นิยมในการป้องกันความเสี่ยง เนื่องจากมันสามารถช่วยลดความผันผวนของราคาได้ โดยปกติแล้ว รายละเอียดของสัญญาจะถูกเก็บไว้ระหว่างคู่สัญญา

ตลาดฟิวเจอร์สเกี่ยวข้องกับการซื้อและการขายในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยจะชำระในวันในอนาคตตามที่ระบุ ดังนั้นเทรดเดอร์จะสามารถเข้าไปเดิมพันว่าราคาจะขึ้นหรือลงได้ ส่วนการเปลี่ยนแปลงรายวันในตลาดจะสะท้อนอยู่ในสัญญา

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสัญญาฟอร์เวิร์ดและสัญญาฟิวเจอร์สจะแสดงอยู่ในตารางด้านล่างนี้

ฟอร์เวิร์ด

ฟิวเจอร์ส

วิธีการเทรด

OTC (over-the-counter )

บนตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน

การชำระค่าใช้จ่าย

ไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า

ต้องจ่ายด้วยมาร์จิ้น

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

สามารถปรับเปลี่ยนได้

มาตรฐาน

ความเสี่ยง

สูงกว่า

ต่ำกว่า

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์

เทรดฟอเร็กซ์อย่างไรดี

เวลาที่ดีที่สุดในการเทรด: ช่วงเวลาตลาดฟอเร็กซ์

แม้ตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินเปิดทำการทั้งวันทั้งคืน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตลาดจะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีช่วงเวลาตลาดหลักสี่ช่วงเวลาที่ได้รับการตั้งชื่อตามศูนย์กลางการเงินหลัก ๆ:

  1. ช่วงเวลาตลาดซิดนีย์ (22.00 – 07.00 น. GMT): การซื้อขายค่อนข้างสงบและมีความผันผวนต่ำ แม้ว่าจะมีการแลกเปลี่ยน AUD, NZD และ JPY อย่างคึกคักก็ตาม

  2. ช่วงเวลาตลาดโตเกียว (00.00 – 09.00 น. GMT) จะเชื่อมโยงกับตลาดต่าง ๆ ในเอเชีย นักลงทุนซื้อขายคู่สกุลเงินต่าง ๆ รวมไปถึงสกุลเงินเยนญี่ปุ่นที่คึกคักที่สุดในช่วงนี้

  3. ช่วงเวลาตลาดลอนดอน (08.00 – 05.00 น. GMT) จะเป็นช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง ลอนดอนเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของโลก ดังนั้นช่วงเวลาตลาดนี้จึงเป็นส่วนสำคัญของตลาดโลก สกุลเงินที่ถูกซื้อขายมากที่สุดคือปอนด์อังกฤษ ยูโร และฟรังก์สวิส

  4. ช่วงเวลาตลาดนิวยอร์ก (13.00 – 22.00 น. GMT) มีความเคลื่อนไหวสูงมากเทียบเท่าช่วงเวลาตลาดลอนดอน เหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่สำคัญส่วนใหญ่ที่คุณได้ยินจากข่าว มักเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาตลาดนี้ เนื่องจากมันเป็นช่วงเวลาที่สกุลเงินสำรองหลักของโลกอย่าง USD มีความผันผวนสูง

ในการเลือกช่วงเวลาซื้อขาย ให้เลือกช่วงเวลาที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวมากที่สุด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการเปิดและปิดสถานะเป็นจำนวนมาก มีปริมาณการซื้อขายสูง ในช่วงเวลาทำการเหล่านี้ สเปรดจะแคบลง และความเสี่ยงที่เกิด slippage ก็จะน้อยลงด้วย

แพลตฟอร์มการซื้อขาย:

MDP-5392_1200x675_4_TH.png
อินเทอร์เฟซ MetaTrader 5

ในตลาดฟอเร็กซ์ ทุกอย่างจะะเกิดขึ้นแบบออนไลน์ สิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องทำคือเลือก แพลตฟอร์มการซื้อขาย ที่สะดวกและเชื่อถือได้ — ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อส่งมอบข้อมูลที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ให้แก่เทรดเดอร์ แพลตฟอร์มการซื้อขายจะแสดงกราฟที่คุณสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของมูลค่าของสกุลเงินในช่วงเวลาต่าง ๆ และนำเสนอข้อมูลที่ช่วยคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาในอนาคต คุณสามารถวางคำสั่งซื้อขายประเภทต่าง ๆ และใช้การเทรดแบบอัลกอริธึมได้ มีหลากหลายเครื่องมือการจัดการความเสี่ยง นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถซื้อขายได้ขณะเดินทาง MetaTrader 4 และ 5 เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเป็นอย่างดีในปัจจุบัน

เทคนิคในการจัดการความเสี่ยง

ตลาดฟอเร็กซ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่อาจคาดเดาได้ การกำหนดกฎเกณฑ์ที่จะปกป้องเงินของคุณและป้องกันการสูญเสียถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

  • เตรียมแผนการซื้อขายที่ดี แผนจะทำให้คุณมีวินัยและมีแรงบันดาลใจ แผนดังกล่าวควรสอดคล้องกับเป้าหมายของคุณและคำนึงถึงทุกสถานการณ์ที่สำคัญต่อคุณ

  • เริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง ฝึกฝนและเรียนรู้โดยปราศจากความเสี่ยงก่อนเปิดคำสั่งซื้อขายจริง

  • ใช้การกำหนดขนาดสถานะ— จำนวนเงินในพอร์ตการลงทุนที่เทรดเดอร์ตั้งใจจะลงทุน

  • ใช้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม แบบที่พบมากที่สุดคือ 1:3 นั่นหมายความว่าทุก ๆ $1 ที่คุณใส่เข้าไปในคำสั่งซื้อขาย คุณพยายามทำกำไรให้ได้ $3

  • กระจายการลงทุนของคุณ อย่าใส่เงินทั้งหมดของคุณลงในคำสั่งซื้อขายเดียวหรือเพียงแค่คู่สกุลเงินเดียว แต่ให้แบ่งเงินออกเป็นหลาย ๆ คำสั่งซื้อขาย ด้วยวิธีนี้หากคุณขาดทุนจากคำสั่งซื้อขายหนึ่ง คุณก็จะไม่สูญเสียเงินทั้งหมดของคุณ

เปิดบัญชีทดลองที่ FBS และเริ่มทำเงินตอนนี้

เทรดเลย

ฟอเร็กซ์ถูกใช้ในการป้องกันความเสี่ยงอย่างไร?

การป้องกันความเสี่ยงเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่เทรดเดอร์รายย่อยและบริษัทต่าง ๆ ใช้ในการบริหารความเสี่ยง มันเป็นเหมือนแผนสำรองสำหรับเงินของคุณ เนื่องจากตลาดฟอเร็กซ์มีความผันผวนอย่างมาก พวกเขาจึงต้องการปกป้องความมั่งคั่งของตนจากการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากอัตราแลกเปลี่ยน

การป้องกันความเสี่ยงคืออะไร ช่วยพูดให้เข้าใจแบบง่าย ๆ ได้ไหม?

ตัวอย่างเช่น คุณคาดหวังว่าราคาสกุลเงินจะเพิ่มขึ้น แต่คุณก็ไม่มั่นใจ 100% เสียทีเดียว ดังนั้น เพื่อเป็นการปกป้องตัวเองหากราคาลดลง คุณจึงเดิมพันในทิศทางตรงกันข้าม ด้วยวิธีนี้ ถ้าแผนแรกของคุณไม่ประสบผลสำเร็จ แผนที่สองก็จะช่วยให้คุณไม่สูญเสียมากนัก อย่างไรก็ตาม การลดความเสี่ยงมักมาคู่กับการลดลงของกำไรที่คาดหวังเสมอ

บริษัท ผู้ส่งออกและนำเข้า นักลงทุน และบุคคลทั่วไปล้วนสามารถใช้การป้องกันความเสี่ยงในตลาดฟอเร็กซ์ได้

มีตราสารทางการเงินที่สามารถช่วยนักลงทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้

  • สัญญาฟอร์เวิร์ด ช่วยในการช่วยรักษาอัตราแลกเปลี่ยน

  • สัญญาฟิวเจอร์ส ฟิวเจอร์สนั้นมีมาตรฐานซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง แต่มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าฟอร์เวิร์ด

  • ออปชั่นสกุลเงิน ผู้ถือออปชั่นสามารถ (แต่ไม่จำเป็นต้อง) ซื้อขาย FX ในอัตราที่ตกลงกันก่อนวันหมดอายุที่กำหนด สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นมากขึ้นแถมยังให้การปกป้องอีกด้วย

  • สัญญาสวอปสกุลเงิน สวอปคือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินกับอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายจะทำธุรกรรมย้อนกลับในภายหลัง สวอปมีประโยชน์เมื่อบริษัทต้องการบริหารความเสี่ยงด้านสกุลเงินในระยะยาว

ข้อดีและข้อเสียของการเทรดฟอเร็กซ์

1200х675-3.png

มาดูข้อดี ของการเทรดฟอเร็กซ์ ที่ทำให้การเทรดฟอเร็กซ์เป็นที่น่าดึงดูดใจของนักลงทุนทั่วโลกกันดีกว่า

  1. ตลาดฟอเร็กซ์เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ยกเว้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณสามารถเทรดได้เกือบทุกเวลาซึ่งสะดวกสำหรับผู้คนที่มีตารางเวลาที่แตกต่างกัน

  2. ตลาดฟอเร็กซ์มีสภาพคล่องสูง ตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุ ปริมาณการซื้อขายในตลาด FX ต่อวันอยู่ที่ประมาณ $2.4 ล้านล้าน คุณสามารถซื้อและขายสกุลเงินได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ราคามักจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อขายคู่สกุลเงินหลักอย่างเช่น EURUSD การหาผู้ซื้อหรือผู้ขายให้ได้ทันทีนั้นเป็นเรื่องง่าย

  3. ในตลาดฟอเร็กซ์นั้นมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม (ค่าคอมมิชชันและค่านายหน้า) ที่ค่อนข้างต่ำกว่า เมื่อเทียบกับตลาดอื่น ๆ อย่างเช่น ตลาดหุ้น โบรกเกอร์ FX ส่วนใหญ่จะทำเงินจากค่าสเปรด ไม่ใช่จากค่าธรรมเนียม

  4. ด้วยเลเวอเรจ คุณสามารถวางเงินลงในคำสั่งซื้อขายมากกว่าที่คุณมีได้ ตัวอย่างเช่น ด้วยเลเวอเรจ 1:30 คุณสามารถใช้เงิน $3,000 ในขณะที่ลงทุนเงินของตัวเองเพียง $100 เท่านั้น สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มผลกำไรที่อาจเป็นไปได้ของคุณได้เป็นอย่างมากหากตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณต้องการ

  5. คุณสามารถทำกำไรได้ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลงก็ตาม หากคุณคิดว่ามูลค่าของสกุลเงินจะเพิ่มขึ้น คุณก็สามารถเข้าซื้อมันได้ (เปิดสถานะ long) แต่ในทำนองกลับกัน หากคุณคาดว่าราคาจะลดลง คุณก็สามารถขายมันได้ (เปิดสถานะ short) สิ่งนี้ทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสเติบโตมากขึ้น เมื่อเทียบกับตลาดที่คุณสามารถทำกำไรได้เฉพาะในตอนที่ราคาเพิ่มขึ้นเท่านั้น

  6. ตลาด FX มีหลากหลายคู่เงินให้เลือกเทรด ด้วยคู่สกุลเงินหลักที่มีให้เลือกมากกว่า 25 คู่ คุณจึงมีความยืดหยุ่นสูงสุดและสามารถสลับจากคู่สกุลเงินหนึ่งไปยังอีกคู่สกุลเงินหนึ่งได้อย่างง่ายดายหากต้องการ

  7. แม้ว่าตลาดฟอเร็กซ์จะขึ้นชื่อในเรื่องของความผันผวน แต่นั่นก็อาจเป็นข้อได้เปรียบสำหรับคุณ หากคุณวางคำสั่งซื้อขายอย่างระมัดระวัง การเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็วก็จะเปิดโอกาสให้ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ

  8. การเทรดฟอเร็กซ์สามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้คนทุกระดับทักษะ มีตัวบ่งชี้ทางเทคนิคและกลยุทธ์การวิเคราะหจำนวนมากที่จะช่วยให้คุณเริ่มเทรดได้อย่างประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ข้อดีก็มักจะมาพร้อมกับข้อเสียอยู่เสมอ และการเทรดฟอเร็กซ์ก็ไม่มีข้อยกเว้น

  1. การซื้อขายทุกประเภทมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสีย สำหรับตัวอย่างในตลาดฟอเร็กซ์ การใช้เลเวอเรจสามารถช่วยเพิ่มผลกำไรได้เป็นอย่างมาก แต่ก็สามารถทำให้การสูญเสียเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณได้เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงราคาเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่การสูญเสียในจำนวนมหาศาลได้ การมีกลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยงถือเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้คุณไม่สูญเสียเงินมากกว่าที่ลงทุนไป

  2. ความผันผวนสูงอาจเป็นศัตรูของคุณ: ราคาของสกุลเงินมักจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิดและรวดเร็ว บางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากที่เทรดเดอร์จะคาดเดาได้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก แม้แต่ข่าวเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก็อาจทำให้ราคาเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นเทรดเดอร์ที่ไม่มีประสบการณ์ควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก

  3. ดังที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าตลาดฟอเร็กซ์เปิดทำการตลอด 24/5 ตลาดนี้ต้องการความเอาใจใส่และการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดได้ ส่งผลให้เทรดเดอร์อาจพลาดโอกาสต่าง ๆ เนื่องจากไม่ได้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างทันท่วงที

  4. ตลาดฟอเร็กซ์ต้องการความทุ่มเทเป็นอย่างมาก เทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรในตลาดควรมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์และปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดนี้ มันอาจทำให้คุณรู้สึกรับไม่ไหว โดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้น

  5. ตลาด FX ไม่ได้โปร่งใสเสียทีเดียว คุณอาจไม่เห็นรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับวิธีการเปิดคำสั่งซื้อขายของคุณ หรืออาจไม่ได้รับราคาที่ดีที่สุด คุณควรทำงานกับโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลเพื่อให้เงินของคุณได้รับการคุ้มครอง

  6. เทรดเดอร์ FX ควรพึ่งพาตัวเองเท่านั้น ในตอนที่เรียนรู้กระบวนการนี้ ปกติแล้วก็จะไม่มีความช่วยเหลือใด ๆ เลย ความอดทนและความพากเพียรขณะเรียนรู้ด้วยตนเองจะนำคุณไปสู่เป้าหมาย

การซื้อขายเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยกับ FBS ฝากเงินแล้วไปเทรดฟอเร็กซ์กันเลย!

วิธีการฝากเงินที่ FBS

กลโกงฟอเร็กซ์: ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้

1200х675-5.png

กลโกงฟอเร็กซ์ที่พบบ่อยที่สุดมีอะไรบ้าง?

ตลาดฟอเร็กซ์มีขนาดใหญ่ ทำให้ไม่เพียงแต่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์และมือใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นเป้าหมายของพวกมิจฉาชีพอีกด้วย เทรดเดอร์หลายพันรายต่างต้องทนทุกข์ทรมานจากการกระทำที่ผิดจริยธรรมของโบรกเกอร์ที่ไม่ซื่อสัตย์ในแต่ละปี โชคดีที่การทราบวิธีการแยกแยะพวกต้มตุ๋นออกจากโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้จะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงเหล่ามิจฉาชีพได้ ขั้นตอนแรกที่สำคัญคือการระบุการต้มตุ๋น กลโกงฟอเร็กซ์ส่วนใหญ่จะไม่มีความโปร่งใส มักมีการสัญญาว่าจะให้ผลกำไรสูงโดยมีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย รวมถึงการขายแบบก้าวร้าวและข้อเสนอที่ไม่ได้ร้องขอ

กลโกงฟอเร็กซ์ที่พบบ่อยที่สุดที่คุณควรระวัง มีดังต่อไปนี้

  1. ผู้ขายสัญญาณ สัญญาณคือข้อมูลบางอย่างที่โบรกเกอร์นำเสนอให้กับเทรดเดอร์ ข้อความแจ้งเตือนเหล่านี้ควรมีไว้เพื่อมอบข้อได้เปรียบให้กับเทรดเดอร์ และรักษาคำสั่งซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นโบรกเกอร์จึงเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับข้อมูลนี้ แต่จงระวัง เพราะข้อมูลบางอย่างสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าและเพิ่มโอกาสในการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จได้ แต่ไม่มีใครสามารถรับประกันคำสั่งซื้อขายที่ทำกำไรได้ นอกจากนี้ ผู้ขายสัญญาณมักจะผิดสัญญาทันทีที่ได้รับค่าธรรมเนียม

  2. โกงสเปรด โบรกเกอร์จะทำกำไรจากสเปรด และยิ่งสเปรดกว้างเท่าใด พวกเขาก็จะได้รับกำไรมากขึ้นเท่านั้น โบรกเกอร์ที่ไร้ความซื่อสัตย์จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโปรแกรมที่แสดงราคา และขยายช่องว่างระหว่างราคา bid และราคา ask ปกป้องตนเองจากกลโกงนี้โดยสอบถามเรื่องสเปรดกับโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม บางครั้งก็อาจเกิด slippage ได้ คุณสามารถตั้งคำสั่ง stop-loss เพื่อป้องกันตนเองจากการสูญเสียในกรณีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

  3. โกงด้วยระบบอัตโนมัติ โบรกเกอร์บางรายจะนำเสนอบริการการซื้อขายแบบอัตโนมัติโดยใช้ซอฟต์แวร์เพื่อให้คุณสามารถซื้อขายได้แม้ในยามที่คุณไม่ได้ออนไลน์ อย่างไรก็ตาม วิธีการทำงานของโรบอตเหล่านี้ก็ไม่มีความชัดเจนเสมอไป เนื่องจากซอฟต์แวร์มีความซับซ้อน ให้ลองขอให้โบรกเกอร์อธิบายหลักการทำงานของมันให้คุณฟัง หากพวกเขาตอบแบบเลี่ยง ๆ หรือคลุมเครือ นั่นแสดงว่าการใช้โปรแกรมดังกล่าวอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีเสียแล้ว

  4. การตลาดแบบหลายระดับ แชร์ลูกโซ่เหล่านี้จะใช้ตลาดฟอเร็กซ์เป็นเพียงแพลตฟอร์มในการรับสมัครสมาชิกใหม่และหลอกเอาเงินจากพวกเขา สัญญาณเตือนของแชร์ลูกโซ่หรือ MLM คือการมุ่งเน้นไปที่การสรรหาบุคลากร ไม่ใช่การซื้อขายจริง ๆ คำสัญญาในการเติบโตของผู้ที่มาต่อห่วงโซ่และกำไรที่ไม่สมจริง และการขาดความโปร่งใส

  5. แชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์ มันจะคล้าย ๆ กับบริษัท MLM ที่มุ่งเน้นไปการสรรหาคนเข้าสู่ชุมชนการลงทุนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ ผู้นำจะทำเงินจากค่าธรรมเนียมสมาชิกที่พวกเขาเรียกเก็บ อย่างไรก็ตาม อย่าสับสนระหว่างแชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์กับโซเชียลเทรดดิ้ง เนื่องจากโซเชียลเทรดดิ้งจะใช้โบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการกำกับดูแลอยู่เสมอ

  6. พวกแอบอ้างและบริษัทปลอม พวกเขาจะปลอมตัวเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์หรือสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียง สัญญาณเตือนคือการโทรติดต่อโดยตรง เว็บไซต์ปลอม และการขอชำระเงินล่วงหน้า โดยปกติแล้วพวกเขาจะมุ่งเป้าไปที่เทรดเดอร์มือใหม่หรือเทรดเดอร์ที่ไม่ใส่ใจ

  7. ไบนารีออปชัน ในทางเทคนิคแล้วมันไม่ใช่การต้มตุ๋น แต่ว่ามันมีความเสี่ยงสูงมาก เทรดเดอร์ต่างคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กำหนด และจะได้รับเงินหากการคาดการณ์ถูกต้อง หรือสูญเสียเงินลงทุนหากการคาดการณ์ไม่ถูกต้อง มันคล้าย ๆ กับการพนัน ดังนั้นไบนารีออปชันจึงถูกห้ามในบางประเทศ ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์ไบนารีออปชั่นมากกว่า 85% ต่างสูญเสียเงินของพวกเขา

เคล็ดลับในการหลีกเลี่ยงกลโกงฟอเร็กซ์

ปกป้องเงินทุนของคุณในขณะที่ซื้อขายด้วยเคล็ดลับต่อไปนี้

  1. เลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือซึ่งได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานด้านการเงิน โบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่เข้มงวดเพื่อปกป้องเทรดเดอร์และรับประกันกิจกรรมการซื้อขายที่เป็นธรรม ในประเทศใหญ่ ๆ จะมีหน่วยงานกำกับดูแล คุณสามารถค้นคว้าได้จากเว็บไซต์ของพวกเขาและตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ของคุณได้รับการกำกับดูแลหรือไม่

  2. อย่าเชื่อคำสัญญาหรือการรับประกันผลกำไรจำนวนมหาศาลในช่วงเวลาสั้น ๆ ด้วยความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยและความพยายามเพียงเล็กน้อย การซื้อขายฟอเร็กซ์มีความเสี่ยง และไม่มีใครที่สามารถรับประกันผลกำไรได้ เว้นแต่คนพวกนั้นจะพยายามหลอกลวงคุณ

  3. ข้อเสนอเลเวอเรจสูงจากโบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการกำกับดูแลอาจฟังดูน่าสนใจ แต่โปรดระวัง อย่างที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ เลเวอเรจสูงก็ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียจำนวนมากได้เช่นกัน

วิธีการเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้

เพื่อปกป้องการลงทุนของคุณและหลีกเลี่ยงการฉ้อโกง การเลือกโบรกเกอร์อย่างชาญฉลาดถือเป็นวิธีการที่เหมาะสม ให้คุณพยายามมองหาคุณลักษณะเหล่านี้

  1. ชื่อเสียงและกฎระเบียบ: โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงจะต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศของคุณ อย่าลังเลที่จะตรวจสอบ คุณสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้บนเว็บไซต์ของพวกเขา

  2. ความหลากหลายของประเภทบัญชีซึ่งมีคุณลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น สเปรด เลเวอเรจ มาร์จิ้น คอมมิชชัน และเงื่อนไขการฝากเงิน

  3. มีหลากหลายคู่สกุลเงินให้เลือกซื้อขาย

  4. แพลตฟอร์มการซื้อขายที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ง่ายต่อการนำทางไปยังจุดหมายและง่ายต่อการใช้งานไม่เพียงแต่สำหรับการซื้อขายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์ด้วย

  5. การสนับสนุนลูกค้าที่เชื่อถือไดที่ทำให้ประสบการณ์การซื้อขายสะดวกสบายยิ่งขึ้นโดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนรายใหม่

ฉันโดนโกงมาแหละ ฉันควรทำอย่างไรดี?

ตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงหรือเปล่า? ทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ด้านล่างนี้

  1. ก่อนอื่น คุณควรดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามกู้คืนเงินลงทุนของคุณ จากนั้นให้หยุดการทำธุรกรรมทั้งหมดกับโบรกเกอร์ที่น่าสงสัยทันที อย่าฝากเงินเข้าบัญชีของคุณเพิ่มเติมอีก

  2. รวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโบรกเกอร์ที่ไร้จริยธรรม: รายละเอียดธุรกรรม อีเมล บันทึกการสนทนา และประวัติการซื้อขาย บันทึกกิจกรรมที่น่าสงสัยและข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดทั้งหมด

  3. แจ้งการหลอกลวงนี้ไปยังเจ้าหน้าที่ทันที ซึ่งอาจเป็นหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศของคุณและตำรวจ

  4. ติดต่อธนาคารของคุณเพื่อขอความช่วยเหลือ

  5. ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ที่คุณทำงานด้วยได้รับการกำกับดูแลหรือไม่ แม้ว่าจะโบรกเกอร์ดังกล่าวจะไม่ได้รับการกำกับดูแล ก็ให้รายงานต่อไปเพื่อช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแลติดตามและป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมในอนาคต

  6. เตือนเทรดเดอร์รายอื่น ๆ เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการต้มตุ๋น: โพสต์บนโซเชียลมีเดียและฟอรั่มฟอเร็กซ์ มันอาจช่วยให้ผู้อื่นหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของแผนการฉ้อโกงแบบเดียวกันได้

  7. ที่ร้ายไปกว่านั้นคือมีการหลอกลวงการกู้คืนที่มุ่งเป้าไปที่นักลงทุนที่ได้รับคำแนะนำที่ผิด มิจฉาชีพมักจะสัญญาที่จะให้ความช่วยเหลือในการกู้คืนเงินที่สูญเสียไปโดยจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม แต่คุณอย่าได้หลงเชื่อเชียวล่ะ ให้คุณเริ่มดำเนินคดีทางกฎหมายไปเลย

FBS เป็นโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ และได้รับการกำกับดูแลโดย FSC (เบลีซ) เริ่มต้นการซื้อขายอย่างปลอดภัยและมั่นคงกับเรา

เริ่มต้นตอนนี้

คำถามที่พบบ่อย

1200х675-4.png

การเทรดฟอเร็กซ์ถูกกฎหมายหรือไม่?

แม้จะมีความเข้าใจผิดอยู่มาก แต่การเทรดฟอเร็กซ์ก็เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายโดยสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม คุณควรระวังมิจฉาชีพและการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้น ระวังสัญญาณเตือนภัยและระมัดระวังในการเลือกโบรกเกอร์ หากคุณเพิ่งเริ่มต้น ควรเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลจำเพาะของตลาด ลองใช้บัญชีทดลองก่อน และเรียนรู้วิธีแยกแยะโบรกเกอร์ที่ซื่อสัตย์ออกจากโบรกเกอร์ที่หลอกลวง

ฉันมีเงินพอที่จะเริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์ไหม?

เงินจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ เงินเพียง $5 ในบัญชีของคุณก็สามารถสร้างกำไรให้กับคุณได้

สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือประสบการณ์ ทักษะในการวิเคราะห์ และความกล้าที่จะรับความเสี่ยงที่คำนวณมาแล้ว โปรดจำไว้ว่าแม้แต่เทรดเดอร์ที่ช่ำชองก็สามารถทำผิดพลาดได้เนื่องจากความผันผวนของตลาดฟอเร็กซ์และปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา

คุณสามารถใช้เลเวอเรจได้หากคุณไม่มีเงินทุนเพียงพอ อย่างไรก็ตาม มันอาจมีความเสี่ยงและนำไปสู่การสูญเสียที่ไม่คาดคิดได้ คุณควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียทั้งหมดอย่างรอบคอบก่อนใช้ตราสารนี้

เทรดเลย

ตลาดฟอเร็กซ์มีความผันผวนไหม?

ตลาดฟอเร็กซ์มักจะมีความผันผวนอย่างมาก ราคาของสกุลเงินสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและบางทีก็ไม่สามารถคาดเดาได้ ปัจจัยหลายประการมีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยน ได้แก่ เศรษฐกิจโลก เหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ และอารมณ์ตลาด ความผันผวนนี้เป็นปัจจัยเสี่ยง แต่เทรดเดอร์จำนวนมากมองว่าเป็นโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องในตลาดฟอเร็กซ์มีความจำเป็นต่อการประเมินความเสี่ยงและปกป้องเงินของคุณ

ตลาดฟอเร็กซ์ได้รับการกำกับดูแลหรือไม่?

ตลาดฟอเร็กซ์ได้รับการกำกับดูแล แต่ระดับของการกำกับดูแลจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ มีหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินในบางประเทศและภูมิภาคที่ดูแลการซื้อขายฟอเร็กซ์ พวกเขาจะทำให้แน่ใจว่าตลาดมีความโปร่งใส ป้องกันการฉ้อโกง และปกป้องผู้ซื้อขาย CFTC และ NFA มีการดำเนินการในสหรัฐอเมริกา ส่วนในสหภาพยุโรป มีหลายประเทศที่ปฏิบัติตามมาตรฐานทั่วไปที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งยุโรป แต่ในแต่ละประเทศก็จะมีหน่วยงานกำกับดูแลของตนเอง

แม้ว่าหน่วยงานกำกับดูแลจะช่วยรักษาความเป็นธรรมของการดำเนินการในตลาด แต่ตลาดฟอเร็กซ์ก็ไม่มีการกระจายอำนาจ นักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกทำการซื้อขาย FX นั่นหมายความว่าไม่ใช่โบรกเกอร์ทุกรายที่จะได้รับการกำกับดูแล ดังนั้นให้เลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตเพื่อหลีกเลี่ยงการหลอกลวงและการฉ้อโกง

พร้อมที่จะเริ่มซื้อขายแล้วหรือยัง? ฟอเร็กซ์กลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายได้กับ FBS มาเริ่มทำเงินกันตอนนี้เลย!

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ: